เพราะเราคือ เพื่อนกัน

ไม่ใช่สายโลหิต ไม่ใช่ญาติ หากเป็นความผูกพันที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญแท้ๆ
เป็นความประจวบเหมาะ เป็นความพอดีที่มาพบเจอ มาเรียน มาทำงานด้วยกัน มาร่วมชะตากรรมเดียวกัน แล้วนับจากนั้นก็ผูกพันกันเรื่อยมา ในฐานะเพื่อน ลบไม่ออก แก้ไขไม่ได้
เว้นเสียแต่ว่า จะเปลี่ยนสถานะใหม่ให้เป็นศัตรูกัน ซึ่งโอกาสนั้นก็เป็นได้น้อยในหมู่เพื่อน

อายุล่วงมาถึงวันนี้ เพื่อนใหม่ไม่มีแล้ว ใจไม่อยากเปิดรับเข้ามาอีก ก็คงมีแต่เพื่อนเก่าสมัยเรียน ประถม- มัธยม – อุดมศึกษา – เริ่มทำงาน หรือ เรียนปริญญาบัตรอื่นๆ ซึ่งนับวันจะเหลือน้อยลงไป เพื่อนเก่าแต่ละคน อายุก็ไล่ๆ กันกะเรา หรือแก่อ่อนกว่ากันไม่มาก บางคนไปไหนไม่ได้ ไปไม่ไหวแล้ว บ้างก็ทำงานไกล อาศัยอยู่ไกล บ้างติดภาระของลูกบ้างเมียบ้าง กระทั่งธุระของหลาน รวมทั้งสังขารของตน จะเห็นชัดเจนว่า มีการลดจำนวนครั้งที่นัด นัดแต่ละทีก็มีจำนวนคนลดลง เพื่อนบางคนล่วงหน้าเสียชีวิตไปก่อนแล้ว ยามคิดถึง ก็ได้แต่จุดธูปเทียน เขียนชื่อ ยกมือพนม ทำบุญ ระลึกถึง จะมีอะไรไปถึงหรือไม่ ไม่รู้ พิสูจน์ไม่ได้ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าไปถึงเพื่อน ว่าเพื่อนจะได้รับ

“ดูแลกันยามมีชีวิต ยามเดือดร้อนนี่แหละครับ ดูแลกันตามกำลัง”

ถ้าเพื่อนไม่ช่วยเพื่อนแล้ว ใครล่ะครับจะช่วย คนอื่นเขายิ่งไม่รู้จักมักคุ้น ไม่ใช่เพื่อนกัน ใครเขาจะยื่นมือมา ผิดพลาดไปบ้าง ห่างเหินไปหน่อย บกพร่องระหว่างกันไปบ้าง อภัยเถิด

“ทำใจสบายๆ เปิดใจให้กว้าง เอื้อเฟื้อดูแลเกื้อกูลกันยามมีชีวิตดีที่สุด”

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.